สัมผัสวัฒนธรรมญี่ปุ่น

日本文化とのふれ合いイメージ

งานกิจกรรมในประเทศญี่ปุ่น

เนื่องจากในญี่ปุ่นมีงานกิจกรรมต่างๆ ตามฤดูกาล จึงขอแนะนำกิจกรรมหลักๆ ดังนี้


งานวันปีใหม่

1月 お正月

แต่เดิมปีใหม่ (หรือ โอโชกัทสึ) คือเทศกาลต้อนรับพระเจ้าผู้ดูแลความอุดมสมบูรณ์ของปี และเป็นอีกชื่อหนึ่งของเดือนมกราคม ปัจจุบันตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมถึง 3 มกราคมเรียกว่า ซังกะนิจิ วันที่ 1 ถึง 7 มกราคมเรียกว่า มัสสึโนะอูชิ หรือ มัสสึนาโนกะ ช่วงเวลานี้เรียกว่า "ปีใหม่" บางครั้งในพื้นที่ชนบทถือว่าช่วงถึงวันที่ 20 มกราคม ก็เป็นช่วงปีใหม่ เป็นช่วงเวลาที่จะคิดถึงแผนการของปีนี้ และจะส่งการ์ดปีใหม่ให้กับเพื่อนสนิท มีการรวมญาติและจัดเลี้ยงสำหรับการดื่มและรับประทานอาหารด้วย เฉพาะช่วงปีใหม่นี้เท่านั้นที่ชาวญี่ปุ่นจะกินอาหารปีใหม่ “โอเซจิ” เป็นเทศกาลที่น่าตื่นเต้นมากสำหรับเด็ก ๆ ที่มีโอกาสได้รับเงินปีใหม่จากญาติๆ และสำหรับคนญี่ปุ่นปีใหม่คือเทศกาลที่สำคัญที่สุดในรอบปี

งานเซทสึบุน

2月 節分

งานเซทสึบุน คือวันก่อนเริ่มฤดูกาล (ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว) นอกจากนี้ยังหมายถึง "การแบ่งฤดูกาล" ด้วย หลังจากช่วงสมัยเอโดะ (พ.ศ. 2146 - 2411) โดยทั่วไปแล้ว "เซทสึบุน" จะหมายถึงวันก่อนฤดูใบไม้ผลิ (4 กุมภาพันธ์ของทุกปี) โดยมีความคิดที่ว่าความชั่วร้าย (โอนิ) จะเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูกาล และเพื่อที่จะขับมันออกไปเราจะหว่านถั่วพร้อมด้วยพูดว่า"โอนิ วะ โซโตะ ฟุกุ วะ อุชิ" และกินถั่วที่หว่านโดยจำนวนเม็ดที่กินให้เท่ากับอายุของคุณ (นับปี) นอกจากนี้บางพื้นที่ถ้าคุณกินจำนวนมากกว่าหนึ่งปีของอายุคุณ จะถือว่าทำให้มีร่างกายแข็งแรงและไม่ให้เป็นหวัดด้วย

เทศกาลตุ๊กตา

3月 ひな祭り

ฮินะมัทสึริ หรือ วันเด็กผู้หญิง จัดขึ้นเพื่อภาวนาให้เด็กผู้หญิงเติบโตอย่างมีสุขภาพดี ในวันที่ 3 มีนาคมของทุกปี ในวันนี้จะมีการประดับ “ตุ๊กตาฮินะ” และรับประทานชิระชิซูชิ และซุปหอยฮามะกูริ แต่เดิมเทศกาลฮินะมัทสึริ เป็นงานเทศกาลจีนโบราณที่จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกบนริมน้ำ ที่เกียวโตในสมัยเฮอัน (พ.ศ. 1337 - 1728) การเล่นตุ๊กตากระดาษเป็นที่นิยมในหมู่หญิงสาวชนชั้นสูง ซึ่งมีการไหลตุ๊กตากระดาษในแม่น้ำ ในยุคเอโดะ เทคโนโลยีได้พัฒนาการผลิตตุ๊กตา ทำให้ปลี่ยนจากการไหลในแม่น้ำมาเป็นการวางตกแต่ง และได้กลายเป็นเทศกาลของผู้หญิง มีการจัดงานจัดขึ้นทั่วประเทศและเป็นหนึ่งในเทศกาลที่ใหญ่ที่สุดในฤดูใบไม้ผลิ

ทังโกะโนะเซ็กกุ (เทศกาลวันเด็กผู้ชาย)

5月 端午の節句

ทังโกะโนะเซ็กกุ หรือเทศกาลวันเด็กผู้ชาย เป็นหนึ่งในงานเทศกาลของญี่ปุ่น ปัจจุบันจัดขึ้นทุกวันที่ 5 พฤษภาคม ในปีพ. ศ. 2491 จัดให้ "วันเด็ก" เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่ให้เล็งเห็นความสำคัญของเด็ก ขอให้เด็กมีความสุข และระลึกพระคุณของแม่ มีธรรมเนียมการตกแต่งหมวกเกราะ ธงปลาคาร์พและ การรับประทานขนมชิมากิและคาชิวาโมจิ ประวัติของธรรมเนียมนี้เริ่มมาตั้งแต่ยุคนารา (พ.ศ. 1253 - 1337) โคอิโนโบริ เป็นธงที่จำลองรูปปลาคาร์พซึ่งมาจากเรื่องราวของจีนซึ่งมีความหมายฉลองความสำเร็จของเด็กผู้ชาย ส่วนหมวกและชุดเกราะเป็นประเพณีที่โชกุนได้เริ่มจัดขึ้น มีความหมายว่าไม่ให้มีอันตรายใดๆ มาเป็นภัยต่อตัวเด็กได้

ฮินะมัทสึริ หรือ วันเด็กผู้หญิง

7月 七夕

ทานะบาตะ (หรือชิจิเซกิ) เป็นหนึ่งในงานเทศกาลประจำปีของญี่ปุ่น ไต้หวัน จีน เวียดนาม ฯลฯ ในตอนเย็นของวันที่ 7 กรกฏาคมของทุกปี จะแขวนแถบกระดาษสีหรือตกแต่งเขียนคำอธิษฐานบนใบไผ่และไหว้ดวงดาว ทานะบาตะเป็นงานที่เริ่มขึ้นโดยการรวมงานเทศกาล "ทานาบาตะ" ของญี่ปุ่น และเทศกาล "คิโคเดง" ของจีน ซึ่งเชื่อกันว่าวันนี้เป็นวันที่คนรักที่ทางช้างเผือกขวางไว้คือ ดาวโอริฮิเมะ และ ดาวฮิโคโบชิ จะสามารถพบกันได้เพียงปีละครั้งเท่านั้น การตกแต่งแถบกระดาษสีและแถบไม้ไผ่เริ่มขึ้นในยุคเอโดะและไม่สามารถพบเห็นได้ที่อื่นนอกประเทศญี่ปุ่น ในญี่ปุ่นมีพื้นที่ที่จะต้องทำในวันที่ 7 กรกฎาคมและพื้นที่ที่จะต้องทำในวันที่ 7 สิงหาคม ส่วนเทศกาล Sendai Tanabata Festival ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม

วัฒนธรรมญี่ปุ่น

ประเทศญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมหลากหลาย ไม่สามารถแนะนำได้ทั้งหมด จึงอยากยกตัวอย่างวัฒนธรรมที่โดดเด่นให้ดู


อาหาร

食

อาหารญี่ปุ่นนั้นเรียกว่า "วะโชะคุ" (หรือ"นิฮองเรียวริ"ในภาษาทางวิชาการ) จะค่อนข้างแตกต่างจากอาหารยุโรป, อเมริกัน, และเอเชียตะวันตก แต่ทางประเทศในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้นมีการทำและรวมถึงส่วนผสมมากมายที่คล้ายคลึงกับอาหารญี่ปุ่น ทั้งนี้ อาหารญี่ปุ่นนั้นมีลักษณะของมารยาทการรับประทานที่แตกต่างไป ในประเทศแถบเอเชียตะวันออกนั้น การทานอาหารจะเสิร์ฟในจานและหม้อใหญ่ๆ แล้วตักแบ่งกันทาน แต่ในญี่ปุ่นมักใส่อาหารเป็นจานเล็กๆ สำหรับแต่ละคน นอกจากนี้ เวลาทานนั้นสามารถถือจานชามได้ และประเทศญี่ปุ่นถือเป็นประเทศเดียวที่ทานอาหารด้วยการใช้ตะเกียบแต่เพียงอย่างเดียว ยังมีประเพณีอื่นๆ อีกมากมายที่ไม่สามารถเห็นได้นอกจากประเทศญี่ปุ่น เช่น การดูดเส้นหรือซุปของก๋วยเตี๋ยว,โซบะและอุด้งแบบมีเสียงดัง ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอาหารญี่ปุ่นที่มีไขมันต่ำได้รับความชื่นชมว่าเป็นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ

ชุดเสื้อผ้า

衣

เสื้อผ้าสไตล์ตะวันตกเป็นกระแสหลักตั้งแต่ยุคเมจิ (พ.ศ. 2411- ) แต่หากพูดถึงวัฒนธรรมเสื้อผ้าญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมแล้ว ก็ต้องเป็น "กิโมโน" โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงแล้วไม่เพียงแต่มีสีสันที่สวยงามเท่านั้น แต่กิโมโนยังมีองค์ประกอบหลายอย่างที่ดึงความงามภายในออกมา ทุกวันนี้ชุดกิโมโนมักสวมใส่กันในวันที่มีการเฉลิมฉลอง แต่ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หญิงสาวที่ชอบใช้ชุดกิโมโนเป็นเครื่องแต่งกายในชีวิตประจำวันก็เพิ่มขึ้น เป็นความน่าสนใจที่ได้รับการค้นพบใหม่ กิโมโนมีหลายแบบ เช่น ชุดแบบเป็นทางการ ชุดใส่ออกไปธุระ ชุดใส่ไปในเมือง ชุดยูกาตะ ฯลฯ โดยจะเลือกตามสถานการณ์ นอกจากนี้มีการเปลี่ยนวัสดุผ้าตามฤดูกาล จะทำให้สามารถสวมใส่ชุดกิโมโนได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ได้รับผลกระทบจากอากาศร้อนและเย็น ในการเลือกลายชุดกิโมโนนั้นจะเอาฤดูกาลหนึ่งเดือนข้างหน้ามาใช้ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณใส่ชุดกิโมโนในเดือนกุมภาพันธ์ จะใส่ลายดอกบ๊วยสีแดงและดอกพีชซึ่งเป็นดอกไม้เดือนมีนาคม ก่อนอื่นขอแนะนำให้ลองจากชุดยูกาตะซึ่งเป็นชุดกิโมโนชนิดหนึ่งสำหรับฤดูร้อนที่สามารถสวมใส่ได้ง่าย

Page top